คุณมาลัย ชูพินิจ เป็นชาวบ้านคลองสวนหมาก ตำบลนครชุม อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งเป็นบ้านเกิดของบิดาข้าพเจ้า และบุคคลในตระกูล "ชูพินิจ" คนหนึ่งชื่อ พิณ
ชูพินิจ เป็นเพื่อนร่วมน้ำสาบานกับบิดาข้าพเจ้ามาตั้งแต่เด็ก มีความรักใคร่กันเป็นอย่างยิ่ง ดุจพี่น้องคลานตามกันมา เมื่อบิดาข้าพเจ้าและนายพิณ ชูพินิจต่างมีครอบครัวเกิดบุตรธิดาขึ้น บุตรธิดาของทั้งสองฝ่ายก็เรียกอีกฝ่ายหนึ่งเป็นพ่อด้วย เมื่อเติบโตขึ้น บุตรของพ่อพิณคนหนึ่ง คือนายสอน ชูพินิจ ได้แต่งงานกับน้องสาวของข้าพเจ้า จึงนับว่าตระกูล "กิตติขจร" กับตระกูล "ชูพินิจ" นั้นมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดมา สำหรับคุณมาลัย ชูพินิจ ข้าพเจ้ารู้จักชื่อเสียงดีมา ตั้งแต่ข้าพเจ้าเป็นนักเรียนนายร้อย เพราะชอบอ่านเรื่องที่คุณมาลัยเขียนทุกเรื่อง

ต่อมาเมื่อขนัด ชูพินิจ น้องคนเล็กของพ่อพิณและเป็นญาติกับคุณมาลัย ได้เข้ามาเป็นนักเรียนนายร้อนอยู่ชั้นเดียวกับข้าพเจ้า และเรียนร่วมชั้นกันมาตลอดจนออกรับราชการเป็นนายทหาร ข้าพเจ้าจึงมีโอกาสไปบ้านของคุณมาลัยกับขนัดหลายครั้ง และได้รู้จักกับคุณมาลัย ใกล้ชิดขึ้น ในสายตาและความรู้สึกของข้าพเจ้า เห็นว่าคุณมาลัยเป็นคนดี มีอุดมการณ์ และเป็น นักประพันธ์ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้บุกเบิกอย่างสำคัญในวงการประพันธ์ยุคใหม่ นับว่าเป็น "เพชร" ที่ วงการประพันธ์ของเมืองไทยได้สูญเสียไปแล้วอย่างน่าเสียดายยิ่ง ในงานด้านหนังสือพิมพ์ คุณมาลัยได้ชื่อว่า เป็นนักหนังสือพิมพ์ชั้นนำของเมืองไทยในยุคนี้ที่ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า ฐานันดรศักดิ์ที่ ๔ มีความสำคัญต่อสังคมยุคใหม่ของเมืองไทยอย่างแท้จริง กิตติคุณทั้งนี้ของคุณมาลัยย่อมจะจารึกอยู่ในความทรงจำของวงการประพันธ์และวงการหนังสือพิมพ์ของเมืองไทยไปอีกนาน ข้าพเจ้ารู้สึกเศร้าสลดและอาลัยในการถึงแก่มรณกรรมของคุณมาลัยเป็นอันมาก และขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของคุณมาลัยด้วยน้ำใสใจจริง ขอเดชะคุณพระศรีรัตนตรัยและกุศล ผลบุญคุณธรรมความดีที่คุณมาลัยได้ทำไว้ ตลอดจนผลบุญราศีทักษิณานุประทานที่ท่านเจ้าภาพได้ บำเพ็ญ จนเป็นปัจจัยหนุนนำให้ดวงวิญญาณอันบริสุทธิ์ของคุณมาลัยไปสู่แต่สุคติ สถิตอยู่ที่ ทิพยสถานพิมานในสรวงสวรรค์ และประสบแต่ความสุขวิบูลย์ผลในสัมปรายภพทุกประการ

 
 

คุณมาลัย ชูพินิจ เป็นนักประพันธ์ และเป็นนักหนังสือพิมพ์อาวุโสผู้หนึ่งในระหว่างที่มีชีวิตอยู่ได้คลุกคลีอยู่กับการประพันธ์ และฝักใฝ่วงการหนังสือพิมพ์มากที่สุด ท่านเป็นผู้มีความคิดเห็นละเอียดอ่อน ฉะนั้นข้อเขียนหรือบทความต่างๆ เท่าที่ข้าพเจ้าได้เคยอ่าน จึงโน้มไปในทางที่ เป็นประโยชน์ ไม่เป็นการกระทบกระเทือน หรือเป็นภัยต่อบุคคลหรือประเทศชาติ ตลอดจนเป็น ผู้มีอุปนิสัยใจคอเยือกเย็น จึงเป็นที่รักใคร่แก่บรรดาญาติและมิตรสหายทั่วไป กล่าวคือ เป็นนักสังคมที่ดีผู้หนึ่ง และในบั้นปลายชีวิตของท่านก็ได้รับเกียรติเป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญด้วย ผู้หนึ่ง

การจากไปในครั้งนี้ แม้จะเป็นสิ่งธรรมดาที่หลีกเลี่ยงมิได้ ก็ย่อมเป็นที่อาลัยรักแก่เครือญาติและมิตรสหายทั่วกัน ขออำนาจกุศลทักษิณานุประทานซึ่งบรรดาญาติมิตรประกอบอุทิศ จงเป็นผลสัมฤทธิ์ให้ดวงวิญญาณของคุณมาลัย ชูพินิจ ได้รับความสุข ณ สัมปรายภพนั้น เทอญ

 
 

แม้ว่าข้าพเจ้าจะรู้จักกับคุณมาลัย ชูพินิจ มาชั่วระยะเวลาไม่นานนักเพียงในตอนที่ท่านเป็นสมาชิกแห่งสภาร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งได้พบปะวิสาสะกันบ่อยครั้ง ข้าพเจ้ามีความรู้สึกอย่างจริงใจว่า ท่านมีอัธยาศัยอันน่าเคารพ พูดเรียบๆ ไม่มาก แต่ถ้อยคำที่กล่าวออกมาแจ่มใส ประทับใจ มีเหตุผล ที่เป็นยุติธรรม และเป็นคติชวนฟัง การพูดอภิปรายของท่านผู้นี้ในสภาก็มีลักษณะที่ชวนฟังดังกล่าวแล้ว ส่วนบทประพันธ์ที่เขียนลงในหนังสือพิมพ์นั้นรู้สึกว่าเป็นสารัตถประโยชน์ จึงชอบ อ่านอยู่เสมอ การที่ต้องสูญเสียบุคคลเช่นนี้ไป จึงเป็นที่น่าเสียดายยิ่ง เพราะท่านควรจะได้ทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติไปได้อีกนาน แต่มาด่วนล่วงลับไปเสียก่อน

กุศลกรรมที่ท่านประกอบไว้ในขณะยังมีชีวิตอยู่ ล้วนเป็นคุณประโยชน์ส่วนรวม ย่อมจะนำท่านไปสู่สุคติในสัมปรายภพเป็นแน่แท้

 
 

คุณมาลัย ชูพินิจ เป็นนักเรียนเก่าโรงเรียนเดียวกับข้าพเจ้า คือโรงเรียนมัธยมวัดเทพ ศิรินทร์ฯ แต่คุณมาลัยเป็นนักเรียนรุ่นพี่ และเรียนจบชั้นมัธยมบริบูรณ์ไปก่อนข้าพเจ้าหลายปี ข้าพเจ้ารู้จักคุณมาลัยและสนใจกับคุณมาลัย ก็โดยได้อ่านบทประพันธ์ของคุณมาลัยในหนังสือ นิตยสารของโรงเรียน คือ "แถลงการณ์ศึกษาโรงเรียนเทพศิรินทร์" นั่นเอง ซึ่งเป็นหนังสือที่นักเรียนพวกเราชอบอ่านกันทุกคน ผู้ที่เขียนประจำนอกจาก คุณสด กูรมะโรหิตแล้ว ก็คือ คุณมาลัย ชูพินิจ คุณกุหลาบ สายประดิษฐ์ ซึ่งล้วนแล้วต่อมาก็ได้ชื่อว่าเป็นนักเขียนที่มีชื่อเสียงชั้นอาวุโส ทั้งสิ้น แววแห่งการเป็นนักเขียนที่ดีชื่อเสียงได้ปรากฏในตัวคุณมาลัยเมื่อเป็นนักเรียนมาแล้ว ฉะนั้น จึงไม่มีข้อสงสัยเลยว่าคุณมาลัยจะได้กลายเป็นนักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ในวงการประพันธ์ของเมืองไทยจนนาทีสุดท้ายของชีวิต

คุณมาลัยเป็นนักเขียนประเภท VERSATILE คือเปลี่ยนเชิงการเขียนไปได้ต่างแนว ดังนั้น คุณมาลัยจึงเป็นนักเขียนที่มีนามปากกามากที่สุดในประเทศไทย ซึ่งเป็นที่ทราบกันอยู่แล้ว บท ประพันธ์ของคุณมาลัยไม่เพียงแต่ให้ความบันเทิงเท่านั้น แต่ยังเป็นคติอีกด้วย ทั้งหมดนี้เป็นเครื่อง แสดงว่าคุณมาลัยเป็นคนช่างสังเกตและมีอัธยาศัยใจคอดีเข้าไหนเข้าได้ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่น่านิยมยิ่งนัก คุณสมบัติข้อนี้ใช่แต่จะมองเห็นจากลีลาการเขียนหนังสือของคุณมาลัยเท่านั้นก็หาไม่ แต่จะ เห็นได้จากด้านอื่นในชีวิตของคุณมาลัยอีกด้วย คุณมาลัยเป็นพรานล่าสัตว์ที่มีฝีมืออยู่ในชั้นดีทีเดียว และยังมีฝีมือในทางเล่นยิวยิตสูพอตัวอีกด้วย นอกจากนี้คุณมาลัยยังเป็นนักเล่นกล้วยไม้ที่มีชื่อเสียง คนหนึ่ง และเมื่อแรกได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ได้เคยให้ความคิดเห็นที่เป็นคุณประโยชน์แก่ข้าพเจ้าหลายประการ

คุณสมบัติต่างๆ หลายประการดังกล่าวของคุณมาลัย ชูพินิจ ย่อมจะทำให้นักเรียนโรงเรียนมัธยมวัดเทพศิรินทร์ฯ ทุกคนรวมทั้งข้าพเจ้าเองอดที่จะนิยมสรรเสริญอยู่ไม่ได้ เมื่อคุณมาลัยต้อง จากพวกเราไปเพราะหนีกฎธรรมชาติไม่พ้น พวกเราทุกคนก็ย่อมเสียดาย แต่เราก็ยังภูมิใจว่าคุณมาลัย ชูพินิจ ได้เป็นผู้ปฏิบัติตามคำขวัญของโรงเรียนมัธยมวัดเทพศิรินทร์ฯ ที่ว่า "นสิยาโลกวฑฺ ฒโน" หรือพูดง่ายๆว่า ไม่ควรอยู่เป็นคนรกโลกนั้นได้อย่างดีเลิศ สมเป็นตัวอย่างที่ดีของนักเรียน ที่ดีโรงเรียนนี้และบุคคลทั่วไป

ในสุดท้ายนี้ ข้าพเจ้าขออธิษฐานให้ดวงวิญญาณของคุณมาลัย ชูพินิจ จงไปสู่สุคติภพ เพราะผลแห่งความดีที่ได้ประกอบไว้ในโลกนี้เทอญ

 
 

ข้าพเจ้าได้รู้จัก คุณมาลัย ชูพินิจ ครั้งแรกในฐานะนักเขียนมีชื่อ งานเขียนของคุณมาลัยทั้งสารคดี บันเทิงคดี และนวนิยาย ล้วนให้ความสนุกเพลิดเพลินแฝงคติชีวิต และแนวคิดสร้างสรรค์ สังคมมนุษย์ ได้รับการต้อนรับจากประชาชน อย่างน่าชื่นใจเสมอ

ต่อมาข้าพเจ้าได้รู้จักคุณมาลัยในฐานะนักสังคมสงเคราะห์และผู้สนใจอย่างยิ่งในการศึกษา ของชาติ ซึ่งนำคุณมาลัยให้เข้ามาเกี่ยวพันกับกระทรวงศึกษาธิการอย่างใกล้ชิด คุณมาลัยได้เคยร่วม ไปกับคณะเจ้าหน้าที่ของกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อสำรวจภาวะขาดแคลนของนักเรียนในภาคศึกษา ต่างๆ แล้วนำเสนอมูลนิธิช่วยนักเรียนที่ขาดแคลนในพระบรมราชินูปถัมภ์ หาทางบำบัดความขาด แคลนของนักเรียนเหล่านั้น นอกจากนั้นคุณมาลัยยังได้เคยสละเวลามาร่วมในรายการ "ศึกษาสนทนา" กับข้าพเจ้าทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ซักถามงานการศึกษาด้วยวิธีของคุณมาลัย เองในฐานะผู้แทนประชาชน ทำให้ผู้ชมรายการได้ทราบเรื่องงานการศึกษาแจ่มกระจ่างยิ่งขึ้น

เมื่อทราบข่าวมรณกรรมของ คุณมาลัย ชูพินิจ ข้าพเจ้ามีความโศกเศร้าเสียใจร่วมกับภริยา และบุตรธิดาของคุณมาลัย ที่ได้สูญเสียสุภาพบุรุษของบ้าน ข้าพเจ้ามีความเสียดายร่วมกับคนไทย ที่ต้องสูญเสียนักเขียนมีชื่อ และข้าพเจ้าเสียใจและเสียดายอย่างยิ่งที่สูญเสียผู้ช่วยงานด้านศึกษาที่ เข้มแข็งและสามารถ

 
 
คำไว้อาลัย

ข้าพเจ้ารู้สึกเศร้าสลดใจเป็นอย่างยิ่ง เมื่อได้ทราบข่าวการถึงแก่กรรมของนายมาลัย ชูพินิจ เมื่อก่อนนั้นสักหน่อย คณะรัฐมนตรีก็ได้แต่งตั้งให้เป็นกรรมการพิจารณากิจการภาพยนตร์ร่วมกับข้าพเจ้าอยู่ และทั้งๆ ที่เริ่มป่วยแล้ว ก็ยังอุตส่าห์เขียนบทความมาลงหนังสือ "ชุมนุมนิพนธ์" ซึ่งแจก ในงานฉลองอายุครบหกรอบของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจึ่งขอไว้อาลัยโดยซาบซึ้งตรึงใจ

อันที่จริง นายมาลัย ชูพินิจ กับข้าพเจ้า ได้ร่วมงานกันมาช้านานแล้ว คือ ได้ทำหนังสือพิมพ์ "ประชาชาติ" ร่วมกันมาตั้งแต่ปี ๒๔๗๕ เป็นเวลาประมาณเจ็ดปี ก่อนนั้น นายมาลัย ชูพินิจ ก็ได้เป็นนักประพันธ์และนักหนังสือพิมพ์มาก่อนแล้ว จึ่งได้เป็นกำลังช่วยข้าพเจ้าเป็นอย่าง มากและอย่างดี พูดกันเข้าใจง่ายและอะลุ้มอล่วยกันดี

นายมาลัย ชูพินิจ บำเพ็ญตนให้แก่วิชาชีพนักประพันธ์และนักหนังสือพิมพ์อย่างเคร่งครัด ฝึกตนเองให้เชี่ยวชาญและมีภูมิรู้และความสามารถประจักษ์แก่สาธารณชนผู้อ่านจนมีชื่อเสียงและ เกียรติคุณแพร่หลายทั่วไป เป็นกำลังของบรรดาหนังสือพิมพ์ของบริษัทไทยพณิชยการ จำกัด เป็น อาจารย์วารสารศาสตร์ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นกรรมการมูลนิธิวิชาการหนังสือพิมพ์ แห่งประเทศไทย ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในวิชา วารสารศาสตร์ กับทั้งได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญด้วย

เกียรติคุณทั้งนี้ นายมาลัย ชูพินิจ ได้สร้างสมมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนเองโดยฝึกฝนตนเอง ข้าพเจ้าจึ่งขอไว้อาลัยด้วยพระพุทธศาสนสุภาษิตว่า

ทนฺโต เสฏโฐ มนุสฺเสสุ
ในหมู่มนุษย์ ผู้ฝึกตนเองแล้ว เป็นผู้ประเสริฐสุด
ขอให้ผู้ล่วงลับไปแล้วนี้ ไปสู่สุคติในสัมปรายภพ เทอญ